การเลือกดูเพื่อเช่าพระเครื่อง มีเทคนิคเบื้องต้นในการแยก "พระแท้-พระเก๊" ซึ่งปัจจุบันก็แยกยากมาก เพราะพระเก๊นั้นก็ทำได้เหมือนพระแท้เหลือเกิน แถมบางทียังปลอม "สวยกว่าของแท้" เสียอีก อย่างแรกที่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเช่าพระเครื่อง นั่นคือ ไม่มีสถาบันไหนเปิดสอนวิธีการดูพระแท้พระเก๊ ดังนั้นท่านต้องให้ความสนใจหมั่นศึกษาค้นหาข้อมูลเอง หรือการได้พูดคุยสนทนากับคนเล่นพระ เซียนพระเก่งๆ ที่จะช่วยให้คำแนะนำ พระเครื่องแต่ละประเภททั้งเนื้อผง, เนื้อดิน, พระเหรียญ ฯลฯ ก็จะมีวิธีดูที่แตกต่างกันออกไป เช่น ถ้าชอบพระเหรียญก็ต้องศึกษาเรื่องรอยตัดปั๊มขอบเหรียญ เซียนพระส่วนใหญ่ถ้าศึกษาในเรื่องใดก็จะเก่งในทางนั้น สำหรับคนที่ไม่ศึกษา หรือไม่มีข้อมูล ก็มักจะโดนหลอก อย่าลืมว่าพระเก๊นั้นปลอมได้แม้แต่ "ตำหนิ" ของพระเครื่อง
คำแนะนำในการศึกษาอย่างง่ายๆ
- ศึกษาจากรูปภาพ ถ้าไม่มีองค์จริงก็หาดูรูปไปก่อน โดยดูจากสื่อต่างๆ ที่เชื่อถือได้หรือซื้อรูปถ่ายพระมาดู ประกอบกับศึกษาประวัติที่มาไปด้วยจะทำให้เข้าใจได้เร็ว
- เช่าเพื่อศึกษาและใช้เทียบ หาเช่าพระเครื่องจากเซียนหรือผู้ที่ไว้ใจได้เพื่อศึกษา
- พระแท้ไม่มีถูก ไม่ว่าจะราคาหลักร้อย จนถึงหลักแสน หรือหลักล้าน ก็มีปลอมหมด ถ้าดูไม่ละเอียดแต่ชอบเพราะราคาถูก อาจจะโดนของปลอมหลอกได้ อย่าซื้อพระเครื่องเพราะเห็นแก่ของถูก พระเครื่องแท้ราคาถูกนั้นอาจมีแต่ก็น้อยมาก
วิธีการดูพระแท้-พระเก๊
1. ดูความเก่าของพระตามประเภท และความเสื่อมสภาพของวัสดุ จะต้องมีความเก่าแก่ตามอายุการสร้าง
2. พิมพ์ถูกต้อง
3. ตำหนิครบ
4. ความสมบูรณ์ขององค์พระ มีรอยบิ่น หัก ร้าว หรือไม่
5. ราคา ขึ้นอยู่กับระดับตลาดและความสมบูรณ์ขององค์พระ
การทำความสะอาดพระสำหรับมือใหม่
บางครั้งถ้าไม่รู้วิธี่ที่ถูกต้อง อาจจะทำให้พระที่มีสูง ราคาลดได้ หรือด้อยราคาลงไป ได้ไปอ่านบทความที่คุณสมุจจัย เขียนไวั้ในวารสาร
ธุรกิจพระ ฉบับที่ ๖๓ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐ เห็นว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนสมาชิกชาวเวปพระ จึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอด ณ ที่นี้ ข้อควรจำสำหรับเซียนพระทุกคน คือ พระเครื่องไม่ใช่ฟัน อย่าเอาแปรงสีฟันไปแปรง พระเครื่องไม่ใช่ภาชนะหุงต้ม จึงไม่ควรเอาผงขัดหม้อ หรืสก๊อตไบท์ไปขัด ปรมาจารย์ยุคแรกได้ค้นคว้าวิธีทำความสะอาดพระ หลังจากที่ได้ลองผิดลองถูก จนได้วิธีในการทำความสะอาดพระ ดังต่อไปนี้
วิธีที่ ๑ สรงน้ำ
สมมุติว่าได้พระสมเด็จมา ๑ องค์ ขั้นตอนแรกให้ใช้แอลกอฮอล์ชโลมเพื่่อฆ่าเชื้อโรคก่อน แล้วจึงสรงด้วยน้ำอุ่น โดยใช้สำลีชุบน้ำอุ่น ลูบไล้ตามซอกต่างๆ ให้ทั่ว แล้วนำไปผึ่งลม (ห้ามนำพระลงแช่น้ำอุ่นทั้งองค์โดยเด็ดขาด) เมือแห้งสนิทแล้ว สีพระอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง ไม่ต้องตกใจ เพราะที่เป็นอย่างนี้เพราะเหงื่อไคล หรือ ขี้มือฝุ่นละออง หลุดออกไป การแก้ไขความซีดของพระไม่ยาก ให้ใช้สำลีชุบน้ำหอมสีอ่่อนๆ ทาให้ทั่วองค์ เนื้อพระจะกลับมาเหมือนเดิม
วิธีที่ ๒ การกำจัดฝ่นละออง
ให้ใช้คัดตอนบัด ลูบเบาๆ มั่นปัดในซอกลึกๆ ฝุ่นละอองจะหมดไป วิธี่นี้ิเหมาะสำหรับพระที่จะเก็บเข้ากล่องนานๆ
วิธีที่ ๓ การกำจัดเชื้อรา
พระเครื่องที่เก็บไว้นานๆ ในฤดูฝนอากาศชื้นมากกว่าปกติ อาจมีเชื้อราจับเป็นฝ้าบางๆ ตามซอกต่างๆ ถ้ามีให้ใช้ขนมปังปอนด์ เอาเฉพาะส่วนที่นุ่มๆ ตรงกลาง ตบเบาๆ บนเนื้อพระ ราและผงฝุ่นจะหลุดออกมาหมดพร้อมขนมปัง แต่ถ้าต้องการความสะอาดหมดจด ให้เอาพระซุกไว้บริเวณกลางเนื้อขนมปัง แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ห่อขนมปังไว้อีกที ระวังอย่างให้ผ้าแห้ง ขนมปังจะแข็ง ทิ้งไว้ ๑ - ๒ คืน เมื่อเอาพระออกมา ใช้แปรงอ่อนๆ หรือคัดตอนบัด ปัดเศษขนมปังออกให้หมด จากนั้นผึ่งลมใหแห้งสนิทงเนื้อพระจะเกลี้ยงเกลา ดูผิวหนึกหนุ่มนวลตาขึ้นเป็นอันมาก วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพระสมเด็จ ชนิดมีแป้งโรยพิมพ์
วิธีที่ ๔ กำจัดความชื้น
มีวิธีดังนี้ ๑. ใช้ข้าวสารกลบไว้ในภาชนะขนาดย่อมสัก ๒ - ๓ คืน เมื่อเอาออกมาใช้แปรงขนอ่อน ปัดข้าวสารออก เนื้อพระจะแห้งปราศจากน้ำมัน ผิวพระจะนวล นุ่มตากว่าเก่า เหมาะสำหรับทำความสะอาดพระเนื้อนุ่ม ๒. สรงด้วยน้ซาวข้าวที่มีตะกอนข้นๆ แช่พระไว้ ๑-๒ ชั่วโมง แล้วนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผึงลมให้่แห้งสนิท เหมาะสำหรับพระเนื้อแกร่ง
วิธีที่ ๕ ล้างสนิม
ในกรณีมีสนิมเหล็กจับที่เนื้อพระให้ใช้เปลือกหมากเจียนเป้นชิ้นเล็กๆ จุ่มน้ำยาล้างสนิม ถูค่อยๆ หลายๆ ครั้ง สนิมจะค่อยๆ หลุดออก ข้อควรระวังคืออย่าถูแรงๆ จะทำให้ผิวพระเสียได้
วิธีที่ ๖ ล้างสี
ในกรณีที่เนื้อพระเปื้อนสี ถ้าเป็นสีน้ำมัน ให้ล้างออกด้วยทินเนอร์ ถ้าเป้นสีชนิดอื่น ให้ใช้นำยาคลอรีน หรือน้ำยาซัลเฟอร์ได้ออกไซด์ล้างสีออกชแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง ผึ้งให้แห้ง
วิธีที่ ๗ การแช่ด้วยผงชูรส
ใช้กับพระเนื้อโลหะ เหรียญ หรือรูปหล่อ แช่ไว้ราวครึ่งชั่วโมง หรือนานกว่านั้นตามปริมาณคราบสกปรก เช็ดออกด้วยสำลี หรือล้างน้ำสะอาด การทำความสะอาดด้วยวิธีนี้ อาจทำให้พระเปลี่ยนสีได้ ถ้าทิ้งไว้นานๆ ผิวจะกลับดั่งเดิม หรือถ้าใจร้อนอาจใช้ขีผึ้งเบอร์ ๒๘ ทาบางๆ ก็ได้ เป็นวิธีที่ไม่ควรทำ แต่ถ้าให้ดี ควรรักษาผิวเดิมของพระไว้ดีกว่า ถ้าอยากทำความสะอาดจริงๆ สามารถล้างด้วยแชมภูอ่อนๆ ผสมน้ำอุ่นก็พอแล้ว
วิธีที่ ๘ ไม่ควรขัดพระด้วยน้ำยาขัดโลหะ
น้ำยาสำหรับขัดโลหะ สามารถขัดพระประเภทเนื้อสำริดหรือทองผสม ทำให้สะอาดหมดจดจริงๆ แต่โลหะจะสึกมากกว่า การแช่ด้วยด้วยผงชูรส
*** การขัดพระ ล้างพระเครื่อง ควรทำด้วยความระมัด ระวัง การใช้กรดอย่างอ่อน เช่น มะนาว มะขาม ในพระเนื้อผง จะทำให้พระดูซีดขาวขึ้น ทำให้ขาดเสน่ห์ ***
1553/2 ปากซอยลาดพร้าว 43 ถนนลาดพร้าว แขวงลาดพร้าว กรุงเทพ 10230
ร้าน 02-9398174-5 คุณโรจน์ 085-174-4790
อีเมล์ banboran.antique@gmail.com
Line@: 0851744790
Facebook: www.facebook.com/rubsueloa